1990 มีการเปลี่ยนชื่อบริษัทจาก Issey Miyake International Inc. เป็น Issey Miyake Inc. ด้วยเทคนิคใหม่ garment pleating ที่เขาได้คิดค้นขึ้น เสื้อผ้าชิ้นแรกของ Pleats Please ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นในปี ค.
สนุกทุกลวดลาย!
ISSEY MIYAKE "132 5. ISSEY MIYAKE" ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นโดยอิซเซ่ มิยะเกะ (Issey Miyake) และทีม Reality Lab. ของเขา คือความท้าทายในการสร้างสรรค์รูปแบบใหม่ของมิยะเกะ โดยมีที่มาจากไอเดียในเรื่องของ "Regeneration and Re-creation" และความต่อเนื่องในการค้นหาวิธีการใหม่ๆในการสร้าง "เสื้อที่นำมาซึ่งความสุข และสนุกให้กับผู้สวมใส่" กระบวนการในการที่เสื้อได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นของ "132 5.
ปัจจุปันเป็นบรรณาธิการฝ่ายแฟชั่นให้กับนิตยสาร Out There ในประเทศอังกฤษ และ Grazia ประเทศไทย () View all posts by popkampol →
1964 มิยะเกะ ได้เดินทางไปยัง ประเทศฝรั่งเศส เพื่อไปศึกษาต่อที่สถาบันการออกแบบและตัดเย็บเสื้อผ้าชั้นสูง Chambre Syndicale dela Couture Parisience เมืองปารีส จนเมื่อเรียนจบ ในปี ค. 1966 ก็มีโอกาสได้ทำงานเป็นผู้ช่วยดีไซเนอร์ให้กับห้องเสื้อ Guy Laroche และได้ย้ายไปร่วมงานกับ Givenchy ในปี ค. 1968 ในปี ค. 1970 มิยะเกะ เดินทางกลับมาที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ทำการก่อตั้งห้องเสื้อของตัวเอง ใช้ชื่อว่า Miyake Design Studio โดยรูปแบบเสื้อผ้าของเขา เน้นความสบายเป็นหลัก อีกทั้งยังมีการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้ในการออกแบบ ในปีถัดมาก็ได้เริ่มเปิดบริษัทลูก มีชื่อว่า Issey Miyake International Inc. เพื่อผลิตเสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ออกวางขายในประเทศและส่งออกทั่วโลก โดยมีสาขาแรกอยู่ที่โตเกียว หลังจากนั้นจึงได้ขยับขยาย เปิดสาขาต่างประเทศ ก่อนเปิดตัวแบรนด์อย่างเป็นทางการครั้งแรกที่เมืองปารีส รวมทั้งยังได้เข้าร่วมแสดงผลงานในงาน Paris Fashion Week โดยตั้งแต่ ปี ค. 1973 เป็นต้นมา มิยะเกะ ก็สามารถทำให้ชื่อแบรนด์ของเขาเป็นที่รู้จักและยอมรับไปทั่วโลก อย่างรวดเร็ว โดยมีผลงานเป็นเสื้อผ้าทั้งของผู้ชายและของผู้หญิง ในช่วงปลายยุค 80s มิยะเกะ ก็ได้ทำการทดลองการออกแบบเสื้อผ้าแบบใหม่ โดยการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ร่วมในการออกแบบ ก่อกำเนิดสินค้านวัตกรรมใหม่ ที่รู้จักกันในชื่อ "Pleats" หรือผ้าพลีท คือ ผ้าที่มีลักษณะอัดจีบ มีความยืดหยุ่น เนื้อผ้าค่อนข้างยับยาก ทำให้เกิดความสบายขณะที่สวมใส่ อีกทั้งยังง่ายต่อการดูแลรักษา โดยมิยะเกะได้ทำการพัฒนาและออกแบบเสื้อผ้าที่ทำมาจากผ้าชนิดนี้ จนได้รับควานนิยมเพิ่มขี้น ธุรกิจของมิยะเกะ เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยใน ปี ค.