แต่หนึ่งในหลายวิธีที่ช่วยให้ไขมันสีขาวกลายเป็นไขมันสีน้ำตาลก็คือ การออกกำลังกาย ของอิงวารสาร Disease Models and Mechanisms ที่ได้จัดพิมพ์การทดลองโดยให้ชายรูปร่างเกินมาตรฐานหรืออ้วน เข้าโปรแกรมขี่จักรยาน (exercise bike) 12 อาทิตย์ เป็นเวลา 12อาทิตย์ พบว่า การออกกำลังกายไปกระตุ้น เอ็นไซม์ ชื่อ irisin ซึ่งช่วยให้ ไขมันสีขาวเปลี่ยนตัวเป็นสีน้ำตาลได้นะคะ. ไขมันสีขาว (White Fat). คือแหล่งสะสมพลังงานส่วนใหญ่ของร่างกาย และมีหน้าที่ผลิตฮอร์โมนต่างๆด้วย เช่น. เซลส์ไขมันตอนเล็กๆอยู่ จะมีหน้าที่ผลิต ฮอร์โมนดีที่ชื่อว่า ฮอร์โมน adiponectin ซึ่งช่วยให้ตับและกล้ามเนื้อมีความรู้สึกไวต่อ ฮอร์โมนอินซูลิน ซึ่งทำให้เราไม่เป็นเบาหวานและโรคทางหัวใจได้ง่ายๆ. แต่พอเราเริ่มอ้วนขึ้น ฮอร์โมน adiponectin ก็จะถูกผลิตน้อยลง ก็จะเกิดโรคอ้วน โรคอะไรต่างๆตามมา ไขมันชนิดนี้จึงนับเป็นไขมันที่ไม่ดีค่ะ. ไขมันไม่ดีนี้ มีอยู่ที่ไหนบ้าง. ไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat). ไขมันใต้ผิวหนังก็คือไขมันที่เราวัดโดยใช้ตัวคีบ (skin fold calliper) เวลาเราจะวัด body fat นั่นแหละค่ะ พวกนี้จะเป็น ไขมันสีขาว. ไขมันใต้ท้อง (Visceral Fat).
รู้สึกเป็นหวัดง่าย ช่วงไตรมาสที่ 2 นี้ คุณแม่ตั้งครรภ์จะ เป็นหวัด ได้ง่าย ไอบ่อยๆ สำหรับไข้หวัดที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะแม่ท้องดูแลตัวเองได้ไม่ดี เพราะช่วงนี้ ภูมิคุ้มกันร่างกายของแม่จะลดต่ำลง เพื่อไม่ให้ร่างกายของแม่ปฏิเสธทารกในครรภ์ 4. อาการแสบร้อนกลางอก กรดไหลย้อน คุณแม่ตั้งครรภ์จะเริ่มมีอาการไม่สบายท้อง เนื่องจากจากฮอร์โมนที่ขึ้นๆ ลงๆ ดังนั้นคุณแม่ต้องระวังเรื่องอาหารการกินเพราะสิ่งเหล่านี้จะไปกระตุ้นทำให้เกิดกรดไหลย้อนได้ ปรึกษาคุณหมอเรื่องการรับประทานและเตรียมยาลดกรดเอาไว้สักหน่อย นอกจากช่วยแก้ไขอาการแล้วยังมีแคลเซียมที่จำเป็นต่อคนท้องอย่างมากด้วย 5. เหงือกบวม ความสำคัญไม่แพ้ระบบร่างกายส่วนอื่นๆ นั่นคือเหงือกและฟัน ในช่วงนี้เหงือกของคุณแม่จะบอบบางเป็นพิเศษ ต้องดูแลอย่างดีมาก ๆ แปรงฟันบ่อยทุกครั้งหลังอาหาร และใช้ไหมขัดฟันอย่างระมัดระวัง 6. หายใจไม่อิ่ม แน่นอนว่า เริ่มท้องใหญ่ขึ้น เราแบกทารกที่โตขึ้นเรื่อยๆ ทำให้คุณแม่เหนื่อยง่าย รู้สึกอึดอัดนั่นหมายความว่าปอดของคุณแม่อาจจะขยายตัวได้ยากพอสมควรสำหรับการหายใจให้เต็มอิ่ม 7. มดลูกขยาย ในช่วงไตรมาสแรก มดลูกของคุณแม่ยังคงปลอดภัยอยู่ในอุ้งเชิงกราน พอเริ่มเข้าไตรมาสที่ 2 มดลูกจะเริ่มขยาย ตัวออกมาเพื่อรองรับลูกที่กำลังโตขึ้นทุกวัน อีกไม่นานจะโตจนพ้นเชิงกรานออกมาและอยู่ในตำแหน่งที่สูงขึ้น ที่สำคัญร่างกายของคุณแม่แต่ละคนนั้นแตกต่างกันไป อัตราการเติบโตเองก็อาจแตกต่างกันเล็กน้อยเช่นกัน 8.
มีบัญชีอยู่แล้ว?
ไขมันสีน้ำตาล ทางออกของการลดน้ำหนัก ปัจจุบันปัญหาโรคอ้วนในมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เห็นได้ชัดจากสถิติองค์การอนามัยโลก (WHO) ตั้งแต่ปี ค. ศ.
ไขมันสีน้ำตาลกับไขมันสีขาวคืออะไร - YouTube
1% ของน้ำหนักตัว แต่ถ้าเซลล์ไขมันสีน้ำตาลถูกกระตุ้นให้ทำงานอย่างเต็มที่จะทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ถึง 20% ของการใช้พลังงานของร่างกายต่อวัน ในขณะที่เซลล์ไขมันสีขาวสะสมในร่างกายได้มากถึง 50% ของน้ำหนักตัวในผู้ใหญ่ที่ได้รับพลังงานมากเกินไป ทำให้ไขมันทั้ง 2 ชนิด จึงทำหน้าที่ตรงข้ามกันนั้นเอง แม้ว่าไขมันสีน้ำตาลที่มีมากในวัยเด็กจะลดลงเรื่อยๆ เมื่อโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ แต่ดูเหมือนว่ายังมีทางออกในการกระตุ้นการทำงานของไขมันสีน้ำตาล รวมทั้งเปลี่ยนไขมันสีขาวให้เป็นไขมันสีน้ำตาลอีกด้วย เราจะเพิ่มไขมันสีน้ำตาล ได้อย่างไร?