67 เมตร นั่นเอง สรุประยะรอบสนามที่ลู่ต่างๆเมื่อวิ่งกลางลู่ ลู่ 1 = 402. 58 เมตร ลู่ 2 = 410. 25 เมตร ลู่ 3 = 417. 92 เมตร ลู่ 4 = 425. 59 เมตร ลู่ 5 = 433. 26 เมตร ลู่ 6 = 440. 93 เมตร ลู่ 7 = 448. 60 เมตร ลู่ 8 = 456. 27 เมตร
เลือกประเภทของ อุปกรณ์วิ่ง ให้เหมาะกับกับลักษณะการวิ่ง อาทิเช่น รองเท้าซ้อมทุกวัน, รองเท้าวิ่งตัวซ้อม, รองเท้าวิ่งตัวแข่ง, รองเท้าวิ่งเทรล /รองเท้าเดินป่า หรือรองเท้าตะปู เป็นต้น สามารถสอบถามรายละเอียดรองเท้าในรูปแบบต่างๆ เพิ่มเติมหรือสอบถามราคาได้ ที่นี่ 2. เลือก รองเท้าวิ่ง ที่เหมาะสมกับลักษณะเท้าของเรา อาทิเช่น เท้าปกติ เท้าแบน หรืออุ้งเท้าสูง การเลือกที่เหมาะสมกับเท้าจะช่วยให้การวิ่งของเรามีประสิทธิภาพที่ดีมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดอาการเสียดสีในขณะวิ่งได้อีกด้วย 3. สามารถรองรับแรงกระแทกได้ดี หลายคนมักเข้าใจผิดว่าการวิ่งนั้นสามารถใช้รองเท้าผ้าใบทั่วไปในการวิ่งได้ จริงๆ แล้วก็ไม่ได้มีข้อบังคับว่าถ้าหากต้องการวิ่งต้องใช้ รองเท้าวิ่ง โดยเฉพาะ แต่การเลือกใช้รองเท้าวิ่งที่ตรงกับลักษณะการวิ่งนั้นจะช่วยลดแรงกระแทกได้ดีเพราะมีการออกแบบพื้นรองเท้าที่นุ่มและเบากว่ารองเท้าผ้าใบทั่วไป ทั้งนี้ยังช่วยลดอาการบาดเจ็บขณะวิ่งได้อีกด้วย 4.
ชื่นชอบรองเท้าบาสเก็ตบอล และก็เริ่มชอบรองเท้าอื่นๆ โดยไม่รู้ตัว ถึงแม้จะยังไม่มีความรู้เรื่องราวของรองเท้ามากนัก แต่ก็อยากจะทำเว็บไซต์ที่พูดถึงเรื่องรองเท้า ไม่ว่าจะเป็นรองเท้ารุ่นใหม่, รีวิวรองเท้า (ถ้าได้ซื้อใหม่) และเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับรองเท้าที่อยากจะแชร์
ในการใช้เท้าเปล่าวิ่งนะครับ จบไปแล้วกับรองเท้าสายวิ่งแต่ละประเภทนะครับบบบ ข้อมูลผิดพลาดประการใดขอประทานอภัยด้วยนะครับ ถ้าผมทำผิดพลาดประการใด ก็ขอโทษด้วยนะครับเนื่องจากบล็อคนี้เป็นบล็อคแรกของผมม ขอบพระคุณมากนะครับ
เ นื่องจากรูปร่างของสนามประกอบด้วยครึ่งวงกลม 2 อันแปะหัวแปะท้าย กับตรงกลางที่เป็นเส้นตรง 2 ด้าน เราจึงหาระยะรอบสนามได้ด้วยสูตรง่ายๆ คือ 2*pi*r + 2*S เมื่อ pi = ค่าคงที่ = 22/7 r = รัศมีของครึ่งวงกลมหัว-ท้ายสนาม S = ระยะของทางตรง เป็นค่าคงที่ = 84. 39 เมตร (หรือจำง่ายๆว่า 2 เท่าของระยะ มาราธอน... บังเอิญอะไรเช่นนี้!! ) ก่อนอื่นหาค่า r ที่สัมพันธ์กับความรอบยาวสนามที่ 400 เมตรก่อน 400 = 2*22/7*r + 2*84. 39 เมื่อแก้สมการจะได้ r = 36. 785 เมตร รัศมีความโค้งวัดจนถึงเส้นขอบลู่ด้านในสุด = r-0. 2 = 36. 585 เมตร = R0 ในภาพ รัศมีความโค้งจนถึงกลางลู่ 1 = R0+(1. 22/2) = 37. 195 เมตร = R1 ในภาพ ดังนั้นระยะทางรอบสนามเมื่อวิ่งกลางลู่ 1 พอดี = 2*pi*R1 + 2*S = 402. 58 เมตร ----# เกินจาก 400 เมตรมา 0. 65% พอรับได้เนาะ แล้วถ้าวิ่งรอบสนามกลางลู่อื่นๆ จะได้ระยะกี่เมตร เ มื่อเรารู้ R1 การหาค่า R2, R3,..., R8 ก็ง่ายแล้ว แค่บวกเพิ่มเข้าไปคราวละ 1. 22 เมตรเท่านั้น สรุปเป็นสูตรหาความยาวรอบสนามที่ตำแหน่งกลางลู่ใดๆได้เป็น L = 2*pi*(37. 195+(n-1)*1. 22)+ 2*84. 39 = 402. 58+7. 67(n-1) เมื่อ n คือหมายเลขลู่ ตั้งแต่ 1 ถึง 8 จากสมการจะเห็นว่าระยะรอบสนามจะเพิ่มขึ้นลู่ละ 7.